Record Knowledge 7
Monday 16 September 2019
Time 13:30 - 17:30 o'clock
🌈 The knowledge 🌈
วันนี้เรียนรวม 2 ห้อง เพื่อมานำเสนอนวัตกรรมการศึกษาต่าง ๆ ที่ตนเองจับฉลากได้มานำเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ที่ตนเองไปศึกษาหามา
กลุ่มที่ 1 นำเสนอนวัตกรรม "ไฮสโคป High Scope"
เป็นการสอนที่เน้นการเรียนรู้แบบลงมือทำผ่านมุมเล่นที่หลากหลาย ด้วยสื่อและกิจกรรมที่เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็ก และการแก้ปัญหาอย่างกระตือรือร้น โดยการให้โอกาสเด็กเป็นผู้ริเริ่มการเล่นหรือกิจกรรมต่าง ๆ อย่างอิสระ ซึ่งตรงตามทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญา (Cognitive Theory) ของเพียเจต์ (Piaget)
จะเน้นการเรียนรู้แบบลงมือกระทำ (Active Learning) เพราะเด็กจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงทำให้เกิดความคิด ความรู้ ความเข้าใจ และรู้จักลงมือแก้ปัญหาด้วยตนอง แนวการสอนแบบไฮสโคป (High Scope)
ใช้หลักปฏิบัติ 3 ประการ คือ
1.การวางแผน (Plan)
2.การปฏิบัติ (Do)
3.การทบทวน (Review)
กลุ่มที่ 2 นำเสนอนวัตกรรม "ไฮสโคป High Scope"
วงล้อแห่งการเรียนรู้ของไฮสโคปคือ เมื่อเด็กได้ “เรียนรู้แบบลงมือทำ” วิธีนี้เด็กจะเกิดการเรียนรู้มากกว่าการเป็นฝ่ายรับ การมี “ปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น” ทั้งกับครูและเพื่อน ทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ระหว่างกัน จึงมีโอกาสแก้ปัญหาต่าง ๆ “การจัดสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้” ให้เด็กมีสื่อให้เล่นอิสระ หลากหลายและเพียงพอ
💟 หัวใจของไฮสโคปเน้นให้เด็กเรียนรู้แบบลงมือทำผ่านการเล่น
วางแผน – ลงมือทำ – และทบทวน (Plan – Do - Review)
กลุ่มที่ 3 นำเสนอนวัตกรรม "โปรเจคแอพโพส Project Approach"
คือวิธีการสอนรูปแบบหนึ่งที่ได้ให้โอกาสเด็กปฐมวัยเรียนรู้โดยการสืบค้นข้อมูลอย่างลึกในหัวเรื่องที่เด็กสนใจ เพื่อหาคำตอบจากคำถามที่เด็กร่วมกันคิดด้วยกันกับเพื่อนหรือร่วมกันคิดกับครู และทำให้เกิดกระบวนการสืบค้นขึ้นมา
วิธีจัดการเรียนการสอนมี 4 ระยะ คือ
👉 ระยะที่ 1 เริ่มต้นโครงการ เด็กจะร่วมกันคิดเรื่องที่สนใจ
👉 ระยะที่ 2 ระยะวางแผนโครงการ เป็นช่วงเวลาที่กำหนดจุดประสงค์ว่าต้องการเรียนรู้อะไร กำหนดขอบเขตเนื้อหา ระยะเวลาและวิธีการศึกษา👉 ระยะที่ 3 ดำเนินโครงการตามที่กำหนดไว้ ที่เน้นระบวนการแก้ปัญหา จัดเป็นหัวใจของการสอนแบบโครงการ เพราะเด็กจะได้รับข้อมูลใหม่จากประสบการณ์ตรงหรือเป็นแหล่งข้อมูลพื้นฐานเพราะเด็กได้สนทนา พูดคุยกับบุคคล และสืบค้นจากแหล่งเรียนรู้ ขณะเดียวกันเด็กสามารถค้นความรู้จากแหล่งข้อมูลรอง (Secondary Sources) เช่น การดูวีดีทัศน์ การอ่านหนังสือ เป็นต้น
👉 ระยะที่ 4 สรุปโครงการ ครูและเด็กร่วมวางแผนสรุปโครงการ เป็นขั้นตอนการประเมินโครงการ ทบทวนการปฏิบัติ และวางแผนโครงการใหม่ วิธีการสรุปโครงการอาจจะให้เด็กนำผลงานที่ได้รับมอบหมายมาแสดงต่อครูแล้วอภิปรายประเด็นปัญหา หรือให้เด็กนำเสนอผลงาน ในรูปของการจัดแสดง จัดเป็นนิทรรศการ หรือสาธิตผลงาน
กลุ่มที่ 4 นำเสนอนวัตกรรม "STEM"
คำว่า “สะเต็ม” หรือ “STEM” เป็นคำย่อจากภาษาอังกฤษของศาสตร์ 4 สาขาวิชา ได้แก่
วิทยาศาสตร์ (Science)
เทคโนโลยี (Technology)
วิศวกรรมศาสตร์(Engineering)
และคณิตศาสตร์ (Mathematics)
หมายถึงองค์ความรู้ วิชาการของศาสตร์ทั้งสี่ที่มีความเชื่อมโยงกันในโลกของความเป็นจริงที่ต้องอาศัยองค์ความรู้ต่างๆ มาบูรณาการเข้าด้วยกันในการดำเนินชีวิตและการทำงาน
👉 สะเต็มศึกษา คือ แนวทางการจัดการศึกษาที่บูรณาการความรู้ใน 4 สหวิทยาการ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์ โดยเน้นการนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง รวมทั้งการพัฒนากระบวนการหรือผลผลิตใหม่
👉 สะเต็มมีลักษณะ 5 ประการ ได้แก่
1 เป็นการสอนที่เน้นการบูรณาการ
2 ช่วยนักเรียนสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเนื้อหาวิชาทั้ง 4 กับชีวิตประจำวันและการทำอาชีพ
3 เน้นการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21
4 ท้าทายความคิดของนักเรียน
5 เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น
🌈 Teaching Methodes 🌈
อาจารย์ให้นำเสนอด้วยวิธีที่แตกต่างกันออกไป เพื่อที่จะได้ไม่ยึดติดกับการอ่าน Power Point จะทำให้น่าเบื่อ ไม่น่าฟัง
🌈 Apply 🌈
ทำการนำเสนอออกมาให้ดีและน่าสนใจเพื่อให้เพื่อน ๆ ได้เรียนรู้จากความจริง
🌈 Evalaute Teaching and Learning 🌈
Self-assessment
൦ วันนี้ไม่ได้เข้าเรียน เนื้อหาการบันทึกในครั้งนี้อ้างอิงมาจาก นางสาววิภาพร จิตอาคะ
Evalaute frieads
൦ แต่งกายเรียบร้อยและเข้าเรียนตรงต่อเวลา
൦ มีการนำเสนองานหลากหลายรูปแบบซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนที่ดี
Evalaute teacher
൦ อาจารย์รับฟังทุกกลุ่ม พร้อมอำนวยความสะดวก
൦ อาจารย์แนะนำข้อที่ควรเพิ่มเติม อธิบายให้ชัดเจนขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น